ชป.เตรียมพร้อมรับมือพายุลูกใหม่ เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขัง

กรมชลประทาน ย้ำทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าจับตาสถานการณ์ฝนตกกนักในหลายพื้นที่อย่างใกล้ชิด ระดมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมรับพายุลูกใหม่

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำว่า ปัจจุบัน(16 ต.ค. 63) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำรวมกันทั้งสิ้น 44,189 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 58 ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 20,261 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 12,013 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุอ่างฯ เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 5,340 ล้าน ลบ.ม.
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าพายุดีเปรสชัน (ระดับ 2) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. 63 ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ นั้น

“ได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง รวมไปถึงพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยจากพายุ “นังกา” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยพิจารณาการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการเก็บกัก พร้อมแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายน้ำก่อนการระบายทุกครั้ง และเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามแนวทางการรับมือน้ำหลากอย่างเคร่งครัด ด้วยการกำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดผู้รับผิดชอบและประสาน กำหนดเครื่องจักรเครื่องมือประจุดเสี่ยง รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งานได้ยังเต็มศักยภาพ พร้อมประสานงานกับหน่วยงานระดับท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบถึงสถานการณ์น้ำอย่างทั่วถึงด้วย” ดร.ทวีศักดิ์ฯ กล่าว

กรมชลประทาน ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถประสานโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา