News

สวพ.8 สุดเจ๋ง ผุด “ชุมชนต้นแบบปลูกพืชสมุนไพรต้านโควิด 19”เชิงพาณิชย์

29/07/2021

สวพ.8 สุดเจ๋งผุดโครงการ“ชุมชนต้นแบบ พืชสมุนไพรต้านโควิด 19”เชิงพาณิชย์ระดมคนในชุมชนปลูกสมุนไพรยอดฮิต  ฟ้าทะลายโจร ขิงและกระชายขาว   เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรและเพิ่มผลผลิตรองรับการแพร่ระบาดโควิด-19วางเป้าสร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชนไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านบาท/ปี 

นายจิระ    สุวรรณประเสริฐ   ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 สงขลา (สวพ.8)  กรมวิชาการเกษตร    กล่าวว่า    จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ได้สร้างความวิตกให้แก่ประชาชนอย่างมาก ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยรายวันที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบจ่อภาคเกษตรอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง  อาทิ   มีการบริโภคและกระจายสินค้าเกษตรน้อยลงเนื่องจากมีการปิดตัวของตลาดในชุมชนทำให้เกษตรกรขายสินค้าได้ได้น้อยลงและทำให้สินค้าเกษตรหลายชนิดมีราคาตกต่ำลง นำไปสู่รายได้ที่ต่ำลง และเกิดผลกระทบต่อเนื่องในทั้งทางเศรษฐกิจและ สังคมในที่สุด

จากสถานการณ์ดังกล่าว สวพ.8ได้จัดทำโครงการ “ชุมชนต้นแบบ พืชสมุนไพรต้านโควิด 19” ขึ้นมาช่วยเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนและพัฒนาชุมชนเกษตรในการผลิตสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ขิง กระชายขาว  เพื่อเพิ่มปริมาณสมุนไพรในการสร้างภูมิป้องกันให้กับประชาชนและรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19ตลอดจนเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับแกษตรในชุมชน  โดยโครงการดังกล่าวดำเนินการภายใต้โครงการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์กรมวิชาการเกษตรและโครงการวิจัยฯจากการสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

“การจัดทำโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการปรับตัวของเกษตรกร (Adapt) โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร พัฒนาระบบคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ ของพืชสมุนไพร ต้านโควิด 19  ตลอดจนส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโต(โดยปรับโครงสร้างภาคการเกษตรชุมชนให้สามารถผลิตพืชสมุนไพรต้านโควิด 19 เชิงพาณิชย์  รวมทั้งส่งเสริมการพร้อมรับโดยพัฒนาการเข้าถึงตลาดดิจิทัล   โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการปลูกใน5 ชุมชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา”  นายจิระ    กล่าว

ด้านนายธัชธาวินท์   สะรุโณ   ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการผลิตพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง   สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 สงขลา (สวพ.8)  กรมวิชาการเกษตร    กล่าวเพิ่มถึงแนวทางการดำเนินงานว่า   เบื้องต้นสวพ.8ได้ทำข้อตกลงในการมีส่วนร่วมกับชุมชนในการพัฒนาการผลิตพืชสมุนไพรแบบมีส่วนร่วม  พร้อมให้ความรู้ การพัฒนาการผลิต แปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาการตลาด   จากนั้นจะมีการจัดทำแหล่งขยายพันธุ์สมุนไพร 15,000 ต้น  จัดทำแปลงต้นแบบพืชสมุนไพรต้านโควิด 19 ครัวเรือนละ 100 ต้น   ปลูกฟ้าทะลายโจร  40 ต้น กระชายขาว 30 ต้น  ขิง 30 ต้น เพื่อใช้ในครัวเรือน แบ่งปันในชุมชน เป็นแหล่งขยายพันธุ์ และเป็นรายได้เสริม เป้าหมาย  5 ชุมชน 32 ราย    แปลงต้นแบบฟ้าทะลายโจรเชิงพาณิชย์ รายละ 1,000 ต้น ปลูกเพื่อการผลิตผงฟ้าทะลายโจรแคปซูล จำหน่าย เป็นรายได้ และแบ่งปันในชุมชน เป้าหมาย  3  ชุมชน 10 ราย   โดยทุกแปลงจะมีการรับรองมาตรฐานสินค้า GAP อินทรีย์   รวมทั้งมีการพัฒนาการแปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างแบรนด์สินค้า และการรับรองมาตรฐาน อย. GMPและส่งเสริมการตลาดชุมชนรูปแบบตลาดดิจิตอล   สำหรับชุมชนต้นแบบ 5 แห่ง   ประกอบด้วย   1.ชุมชนป่าขาดโมเดล ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร จ.สงขลา 2. ชุมชนรำแดงโมเดล ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา 3. ชุมชนบ้านแคโมเดล ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา  4.ชุมชนโพธิ์กลาง ต.ท่าหิน อ.สิงพระ จ.สงขลาและ5.ชุมชนวัดสน ต.วัดสน อ.ระโนด จ.สงขลา

“สวพ.8 มีความมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ชุมชนมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์และมีรายได้จากการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผลิตพืชสมุนไพรต้านโควิด 19 เชิงพาณิชย์ จำนวน 10,000 ต้น สามารถผลิตพืชสมุนไพรต้านโควิด 19 เชิงพาณิชย์ได้ รวมทั้งมีการเข้าถึงตลาดดิจิทัลในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น  โดยวางเป้าหมายชุมชนเกษตรสามารถสร้างมูลค่าจากการผลิตฟ้าทะลายโจร และสมุนไพรอื่นๆ ไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านบาท”  นายธัชธาวินท์    กล่าว 

 

No Comments

    Leave a Reply