News

ชป.จับมือชาวนาจังหวัดพิจิตร ร่วมกันแก้ไขปัญหาจัดการน้ำอย่างตรงจุด

09/09/2020

กรมชลประทาน เดินหน้าสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกร หลังพบว่าในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เกษตรกรร้องขอความเป็นธรรม เดือดร้อนหนักข้าวยืนต้นตาย สาเหตุจากการจัดสรรน้ำไม่เป็นธรรม ส่งน้ำไม่ถึงปลายคลอง ทำให้ต้นข้าวที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ได้รับความเสียหายกว่า 10,000 ไร่

นายจักรพันธ์ จารุวัฒน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ได้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเข้าพบ นายประเสริฐ สุขใจชื่น เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ และกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ พื้นที่ตำบลบึงบัว และตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่ชลประทานประมาณ 10,725 ไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายส่งน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานที่ 3 ที่ดูแลพื้นที่ชลประทานทั้งหมดกว่า 196,000 ไร่ โดยรับน้ำจากคลอง 1L-1L-MC(คลองทุ่งพงษ์) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณ กม.20 – 21 ของคลอง 1L-1L-MC ระยะทางอยู่ห่างจากประตูระบายน้ำวังบัวยาวประมาณ 72 กิโลเมตร
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ได้กำหนดรอบเวรการส่งน้ำให้เกษตรกรในพื้นที่ โดยเริ่มทำการส่งน้ำเข้าคลอง 1L-MC ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมา ปัจจุบัน(9 กันยายน 2563) น้ำได้ไหลไปถึงพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำแล้วคือ ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ซึ่งมีระยะทางห่างจากประตูระบายน้ำ วังบัว ประมาณ 108 กิโลเมตร

ทั้งนี้ คลอง 1L-1L-MC(คลองทุ่งพงษ์) เป็นคลองธรรมชาติ ปัจจุบันมีตะกอนดินทับถมอยู่บริเวณท้องคลอง และวัชพืชขึ้นปกคลุม ทำให้น้ำไหลผ่านไม่สะดวก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ได้ประสานไปยังส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 สำนักเครื่องจักรกล นำเครื่องจักรกลเข้าไปกำจัดวัชพืช บริเวณต้นคลองความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันมีผลดำเนินการกว่าร้อยละ 80 ของแผนงาน ส่วนกรณีที่เกษตรกรได้รวมตัวกัน เพื่อขอให้เพิ่มปริมาณน้ำเข้าคลอง 1L-1L-MC(คลองทุ่งพงษ์) มากขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ได้ชี้แจงแผนการบริหารจัดการน้ำของโครงการฯ และกำหนดกติกาการเปิดบานของอาคารบังคับน้ำในคลอง 1L-MC เพื่อให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าคลอง 1L-1L-MC ตามที่เกษตรกรร้องขอ โดยจะกระทบต่อปริมาณน้ำในคลอง 1L-MC น้อยที่สุด พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมหารือแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ร่วมกับ นายประเสริฐ สุขใจชื่น และตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ ด้วยการเพิ่มปริมาณการส่งน้ำในคลอง 1L-1L-MC ตามความเหมาะสม ก่อนจะผันน้ำผ่านคลองแยกซอยบริเวณ กม.14+700 ไปลงยังด้านท้ายช่วง กม.18+000 เพื่อเร่งผลักดันน้ำให้ไปถึงพื้นที่ดังกล่าวให้เร็วขึ้น ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ต่างเห็นด้วยและพึงพอใจกับแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

No Comments

    Leave a Reply