News

ชป.เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักอีกระลอก เน้นเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด

31/08/2020

สภาพฝนที่ตกในระยะนี้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำสายต่างๆ และแหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่งเพิ่มขึ้น เตรียมพร้อมรับฝนตกหนักจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทางตอนบนอีกรอบ เน้อป้องกันหรือลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ VDO Conference ไปยังผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรน้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวมทั้งสำนักงานชลประทานเครือข่าย SWOC ทั้ง 17 แห่งทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำจากพื้นที่ต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 5 ก.ย. 63 ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่งพายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) “ไมสัก” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีการเคลื่อนตัวไปทางคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 2-3 ก.ย. 63 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

​สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน(31 ส.ค. 63) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกันประมาณ 35,984 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 12,191 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 40,000 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,753 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 39 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 3,057 ล้าน ลบ.ม. ด้านผลการจัดสรรน้ำฤดูฝนทั้งประเทศ ปัจจุบัน (31 ส.ค. 63) มีการใช้น้ำไปแล้ว 8,984 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 75 ของแผนจัดสรรน้ำฯ เฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการใช้น้ำไปแล้ว 2,930
ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 90 ของแผนจัดสรรน้ำฯที่วางไว้ คงเหลือปริมาณน้ำที่ต้องจัดสรรอีก 320 ล้าน ลบ.ม.
ปัจจุบันโดยภาพรวมของทั้งประเทศ ยังคงมีปริมาณฝนตกต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คาดว่าในช่วงเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติ และในอ่างเก็บน้ำได้มากขึ้น กรมชลประทาน ได้เน้นย้ำศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะทั่วประเทศ(SWOC 1 – 17) ให้ตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน อาคารชลประทาน เครื่องจักร-เครื่องมือ และทางระบายน้ำ กำจัดวัชพืช ผักตบชวา และสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำให้มีน้ำกิน-น้ำใช้ตลอดทั้งปี ด้านการเกษตรขอให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก โดยจะบริหารจัดการน้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับการวางแผนป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ทางสายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460 หรือติดตามสถานการณ์น้ำได้ทาง http://water.rid.go.th/ และ www.rid.go.th

 

No Comments

    Leave a Reply