รองอธิบดีกรมชลประทาน ร่วมรับองคมนตรีลงพื้นที่ติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สระแก้ว

วันนี้ (5 สิงหาคม 2563) เวลา 10.30 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง และพลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ พร้อมด้วยนายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร) และคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคกลาง จังหวัดสระแก้ว โดยมี

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน นายสุริยพล นุชอนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 นายณัฐวุฒิ สร้อยประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ ณ โครงการอ่างเก็บน้ำพระปรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลช่องกุ่ม อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว

ในการนี้ องคมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ชมการสาธิตการทำเกษตรและการขนส่งน้ำ ในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำพระปรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปผล เรื่องการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริในจังหวัดสระแก้ว การดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์ของอ่างเก็บน้ำพระปรงฯ ผลการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยยางฯ อำเภอตาพระยา รวมไปถึงการสรุปความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการติดตามและขับเคลื่อนในโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะโตน อำเภอตาพระยา และ โครงการอ่างเก็บน้ำแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร

โดยในช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่ของราษฎรที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการอ่างเก็บน้ำพระปรงฯ พร้อมทั้งเยี่ยมชมการประกอบอาชีพของเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ จากโครงการอ่างเก็บน้ำพระปรงฯ ซึ่งทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำพระปรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2521 ให้พิจารณาวางโครงการชลประทานประเภทอ่างเก็บน้ำ ในลุ่มน้ำห้วยพระปรงและลุ่มน้ำห้วยโสมง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำปราจีนบุรี กรมชลประทานได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริ โดยก่อสร้างอ่างเก็บน้ำพระปรงฯ เป็นเขื่อนดิน สูง 26 เมตร ยาว 443 เมตร ความจุที่ระดับน้ำเก็บกัก 97 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในเขตพื้นที่โครงการฯ จำนวน 13,744 ไร่ และมีน้ำสำหรับอุปโภค – บริโภคแก่ราษฎรในเขตโครงการฯ ส่งผลให้ราษฎรสามารถปลูกข้าวได้ทั้งนาปีและนาปรัง และมีผลผลิตต่อปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยบรรเทาผลักดันน้ำเค็มในพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง ช่วยปรับคุณภาพน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี รักษาระบบนิเวศน์ในคลองธรรมชาติด้านท้ายอ่างฯ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับราษฎรได้อีกทางหนึ่ง