เถ้าแก่เนื้อหมูตู้เย็นชุมชน “ร้านนางแสงเพ็ด” จุดเชื่อมต่อความปลอดภัยอาหารของชาวลาว

เมื่อการทำอาชีพส่วนตัวด้วยการเปิดร้านโชว์ห่วยที่บ้านของตัวเองเพราะคิดว่าจะได้ใช้เวลากับครอบครัวและมีรายได้จุนเจือที่บ้านไม่ตอบโจทย์ความต้องการของ “แสงเพ็ด โคดสีเมือง” หญิงชาวลาวในวัย 39 ปี เพราะยอดขายไม่เป็นอย่างที่คิด รายได้ทรงๆตัวเนื่องจากมีคู่แข่งที่เปิดร้านเหมือนๆกันเป็รจำนวนมา เธอจึงหันไปสมัครเข้าเป็นพนักงานบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้า ที่ได้รายได้เดือนละ 8,000 บาท 

แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ความต้องการสร้างวิถีชีวิตที่ดีขึ้นของแสงเพ็ดเป็นจริงได้ หนำซ้ำลักษณะงานตัดเย็บผ้าตามออเดอร์ของลูกค้าที่ต้องทำงานเช้าตรู่ถึงเย็นย่ำ บางวันหากมีออเดอร์ผลิตมากๆก็ต้องทำงานล่วงเวลา หรือบางเดือนอาจไม่มีรายได้พิเศษจากการทำงานล่วงเวลาเลยก็มี ทำให้ไม่มีความแน่นอนของรายได้ แถมยังไม่มีเวลาดูแลครอบครัว 

ด้วยความช่างสังเกตว่าบริเวณโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นแหล่งชุมชนจึงเห็นลู่ทางในการเปิดร้านขายของโชว์ห่วยรองรับความต้องการของทั้งคนงานและชาวชุมชน เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงานและออกมาเช่าห้องเปิดร้านขายของหน้าโรงงานเมื่อเดือนมกราคม 2561 หลังเริ่มค้าขายได้ 3 เดือน พบว่ามีรายได้ต่อวันประมาณ 8,000 บาท ซึ่งรายได้เท่ากับทำงานโรงงานทั้งเดือน จึงถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของแสงเพ็ด 

“เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางทีมงานซี.พี.ลาว ได้เข้ามาพูดคุยถึงธุรกิจเนื้อหมูตู้เย็นชุมชน ที่เป็นการต่อยอดจากร้านโชว์ห่วยที่ทำอยู่แล้ว ที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังถือว่าเราได้เป็นจุดเชื่อมต่ออาหารปลอดภัยให้กับชาวชุมชน จากวัตถุดิบหมูที่มีคุณภาพจากบริษัท ซึ่งเราก็มั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและเป็นลูกค้าของบริษัทอยู่แล้ว จึงตัดสินใจร่วมโครงการเถ้าแก่เนื้อหมูตู้เย็นชุมชนทันที” แสงเพ็ด เล่าย้อนที่มาของการเริ่มอาชีพเถ้าแก่ “ร้านนางแสงเพ็ด” บ้านสายน้ำเงิน เมืองไซเชดถา เวียงจันทร์ สปป.ลาว

หลักจากเธอเป็นเถ้าแก่เต็มตัวและเปิดขายสินค้ามาเดือนเศษก็พบว่ามีลูกค้ารายใหม่ๆเพิ่มขึ้น รายได้ต่อวันของแสงเพ็ดจึงเพิ่มขึ้นไปด้วย โดยมีรายได้จากการขายหมูเพิ่มประมาณ 5,000 บาทต่อวัน เมื่อเห็นอาชีพที่มีอนาคตสดใสเช่นนี้แสงเพ็ด จึงมีโครงการที่จะขยายร้านเพิ่มเติม ด้วยการเช่าห้องข้างๆ อีก 1 ห้อง และแนะนำให้ญาติเข้าร่วมโครงการ โดยระยะแรกจะให้มาศึกษาเรียนรู้ธุรกิจผ่านการฝึกงานและช่วยงานที่ร้านตนเองก่อนเมื่อมั่นใจแล้วก็จะให้เปิดร้านเพิ่มต่อไป นอกจากนี้ แสงเพ็ดยังวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณสินค้าในร้าน อาทิ ปรุงเป็นอาหารพร้อมทาน ซึ่งเป็นการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อีกทางหนึ่ง

“จากที่แค่ต้องการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในร้านและต้องการมีรายได้เพิ่ม จึงได้เข้าร่วมโครงการเถ้าแก่กับซี.พี.ลาว แต่วันนี้นอกจากสินค้าจะหลากหลายขึ้น มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น สามารถขายสินค้าได้หลายรายการในครั้งเดียว อย่างเช่นเมื่อลูกค้ามาซื้อหมูก็จะซื้อเครื่องปรุงอื่นๆเพิ่มเติมไปด้วย ก็ยิ่งทำให้เรามีรายได้จากการค้าขายมากขึ้น ที่สำคัญคือเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำอาหารคุณภาพมาให้คนในชุมชน พวกเขาได้บริโภคหมูสด สะอาด ปลอดภัย ไม่มียาปฏิชีวนะและสารเร่งเนื้อแดง ชาวชุมชนก็สะดวกสะบายในการซื้อสินค้าใกล้บ้านหรือใกล้ที่พักจากร้านเราที่เป็นทางเลือกใหม่ให้กับพวกเขา ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อในตลาดไกลๆเหมือนแต่ก่อน” แสงเพ็ด บอกด้วยรอยยิ้ม 

แสงเพ็ดกล่าวทิ้งท้ายฝากถึงคนที่ต้องการประกอบอาชีพนี้ว่า ควรมีพื้นฐานการขาย กระตือรือร้น มีมนุษสัมพันธ์ดี ใส่ใจลูกค้า เน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เธอยึดถือปฏิบัติและกลายเป็นปัจจัยของความสำเร็จที่เธอพร้อมถ่ายทอดให้กับเถ้าแก่รุ่นใหม่ๆได้เรียนรู้และประสบความสำเร็จไปพร้อมกัน