News

“รมช.มนัญญา” อุ้มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมภาคเหนือตอนบน

14/12/2019

“รมช.มนัญญา” เร่งรัดการตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมรองรับปริมาณน้ำนมดิบใน 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หวั่นหากไม่รีบตั้งโรงงาน คาดน้ำนมดิบจะเกินความต้องการในปี2563 พร้อมเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร อ.ส.ค. ภาคเหนือตอนบน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง หวังเป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาดูงานด้านกิจการโคนมระดับนานาชาติ
วันนี้( 14 ธันวาคม 62) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้า”โครงการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม”และ “ศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร” ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ภาคเหนือตอนบนในอ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณผู้อำนวยการ อ.ส.ค. ผู้บริหารของ อ.ส.ค. และหัวหน้าส่วนราชการใน จ.ลำปาง ร่วมให้การต้อนรับ

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ปัจจุบันการเลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน และลำปางนับเป็นฐานการผลิตน้ำนมดิบที่สำคัญและคุณภาพดีที่สุดของประเทศไทย มีการรวมตัวกันจัดตั้งเป็น สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมมากถึง 18 สหกรณ์ และบริษัทเอกชน 4 แห่ง มีเกษตรกรรวม 1,403 ราย จำนวนโคนมทั้งหมด 64,147 ตัว ปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตได้ 8,990 ตันต่อเดือน หรือ 300 ตันต่อวัน และมีแนวโน้มปริมาณน้ำนมดิบของเกษตรกรเพิ่มขึ้นทุกปี จากสถานการณ์ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีความวิตก หากไม่มีการขยายโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมเพื่อรองรับปริมาณน้ำนมดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย อาจส่งผลให้เกิดปัญหานมล้นตลาดในอนาคต ตนจึงได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าเพื่อให้โครงการดังกล่าวแล้วเสร็จเร็วที่สุดเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ขาดโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ขนาดที่เพียงพอรองรับน้ำนมดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งหากไม่รีบตั้งโรงงาน คาดน้ำนมดิบจะเกินความต้องการในปี2563 ตามมาอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จากการเดินทางติดตามความก้าวหน้าทราบว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวคืบหน้าอย่างมาก โดยในส่วนของพื้นที่สำหรับใช้ก่อสร้างโรงงานนมนั้น อ.ส.คได้รับความอนุเคราะห์จากสถานีพัฒนาที่ดินลำปาง กรมพัฒนาที่ดิน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปางในการมอบที่ดินรวม 154–3-75 ไร่สำหรับใช้ก่อสร้าง 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม โดยจะใช้พื้นที่ที่ อ.ส.ค.ได้รับอนุญาตให้เช่าที่ราชพัสดุ จากกรมธนารักษ์ โดยตรง จำนวน 79-0-00 ไร่
ส่วนที่ 2 การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร ในพื้นที่ของกรมพัฒนาที่ดิน–สถานีพัฒนาที่ดินลำปาง โดยการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมพัฒนาที่ดิน กับ อ.ส.ค. พื้นที่จำนวน 75-3-75 ไร่ โดยได้มี การลงนามความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาที่ดิน กับ อ.ส.ค. ไปแล้วเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อ.ส.ค.ยังได้ดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษามหาวิทยาลัยบูรพา ทำการศึกษาทบทวนโครงการพร้อมออกแบบโครงการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมและศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร ภาคเหนือตอนบน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง โดยที่ปรึกษาได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2561 ที่มีการสรุปผลการทบทวน-การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) พร้อมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะจากมุมมองของที่ปรึกษาที่เป็นประโยชน์ ต่อโครงการ พร้อมออกแบบโครงการ ที่ชัดเจน พร้อมดำเนินการในขั้นตอนที่ อ.ส.ค.สามารถจะนำเสนอเพื่อขอความสนับสนุนงบประมาณ หรือดำเนินการจัดหาผู้ลงทุนในลำดับต่อไป โดยโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม จะมีกำลังการผลิต 150 ตัน ต่อวัน ใช้งบประมาณค่าก่อสร้างและอุปกรณ์เครื่องจักรทั้งโครงการ 1,015,765,370.77 บาท
ด้านดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวถึงความเป็นมา ในจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมและศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร อ.ส.ค.ภาคเหนือตอนบน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางว่า เกิดจากชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด โดยนายชุมพร ปาลี รองประธานรักษาการประธาน ได้มีหนังสือกราบเรียน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในคราวเดินทางมาปฏิบัติราชการและเยี่ยมประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2559 ขอความอนุเคราะห์ให้รัฐบาลพิจารณางบประมาณสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมขนาดใหญ่ และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมครบวงจร เนื่องจากการเลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้ว จึงได้ส่งเรื่องให้ อ.ส.ค.พิจารณาดำเนินการ ต่อมาคณะกรรมการ อ.ส.ค.ในคราวประชุมครั้งที่ 9/2559 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559 ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะว่าเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด และเป็นไปตามความเห็นของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงให้ อ.ส.ค. ดำเนินการ ดังนี้ 1. จัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม ที่ดำเนินการโดย อ.ส.ค. เพื่อรองรับผลผลิตน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้นตามที่รัฐบาล โดยจัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรเป็นฟาร์มขนาดกลางและขนาดใหญ่ 2.จัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ Feed Center เพื่อเป็นแหล่งสนับสนุนอาหารโคนมในราคาต้นทุนต่ำ ศูนย์เลี้ยงโคนมทดแทน เป็นการแบ่งเบาภาระ ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในการนำโคทดแทนมาเลี้ยงยังศูนย์แทน ตามข้อจำกัดด้านแรงงาน สร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่สานต่ออาชีพของครอบครัว และSmart Farm เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานด้านกิจการโคนมระดับนานาชาติ

No Comments

    Leave a Reply