กรมชลประทาน เดินหน้าบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เหลืออีก 2 เดือนกว่า จะสิ้นสุดฤดูแล้ง ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำตามแผน ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำว่า ปัจจุบัน(24 ก.พ. 63) สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 42,026 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 18,000 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 35 ของปริมาณน้ำใช้การได้ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,999 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 3,303 ล้าน ลบ.ม.
ผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งทั้งประเทศ ปัจจุบัน (24 ก.พ. 63) มีการระบายน้ำตามแผนฯไปแล้ว 10,473 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 59 ของแผนจัดสรรน้ำฯ เฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการระบายน้ำตามแผนฯไปแล้วประมาณ 2,925 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ก.พ. 63) มีการเพาะปลูกทั้งประเทศรวม 4.02 ล้านไร่ เกินแผนไปแล้วร้อยละ 42 เก็บเกี่ยวแล้ว 0.44 ล้านไร่ แยกเป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 3.63 ล้านไร่ เกินแผน ไปแล้วร้อยละ 57 เก็บเกี่ยวไปแล้ว 0.42 ล้านไร่ และพื้นที่ปลูกพืชไร่-พืชผักอีกประมาณ 0.39 ล้านไร่ หรือร้อยละ 75 ของแผนฯ เก็บเกี่ยวแล้ว 0.21 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาไม่มีแผนการเพาะปลูกพืชเนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนมีไม่เพียงพอที่จะสนับสนุน แต่จากการสำรวจพบว่ามีการเพาะปลูกพืชนอกแผนฯ ไปแล้วประมาณ 1.95 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 0.18 ล้านไร่ ส่วนใหญ่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ของตนเองในการเพาะปลูก
กรมชลประทาน ได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งทั่วประเทศจำนวน 1,935 เครื่อง ปัจจุบัน(24 ก.พ. 63)ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือตามพื้นที่ต่างๆ รวม 46 จังหวัด จำนวน 331 เครื่อง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด รวม 69 เครื่อง , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด รวม 86 เครื่อง , ภาคกลาง 11 จังหวัด รวม 118 เครื่อง , ภาคตะวันออก 7 จังหวัด รวม 39 เครื่อง , ภาคตะวันตก 1 จังหวัด รวม 3 เครื่อง และภาคใต้ 3 จังหวัด รวม 16 เครื่อง พร้อมกันนี้ ยังได้จัดเตรียมรถยนตบรรทุกน้ำรวมทั้งสิ้น 106 คัน ส่งไปสนับสนุนเพื่อชวยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำ อาทิ จ.เลย 6 คัน จ.ฉะเชิงเทรา 2 คัน จ.จันทบุรี 1 คัน และจ.ระยอง 4 คัน รวมทั้งสิ้น 13 คัน จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้าที่จะมาถึงนี้
No Comments