News

“เฉลิมชัยฯ” สั่ง ชป.ลุยโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาฯ จ.ลำพูน

18/03/2022

กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำพูน หวังสร้างความมั่นคงด้านน้ำ ส่งเสริมอาชีพเพิ่มรายได้ และยกระดับชีวิตราษฎรชาวเมืองลี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

วันนี้ (18 มีนาคม 65) ที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกะทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ไปติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หวังบรรเทาและแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำให้กับราษฎร

นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2537 โดยให้กรมชลประทานพิจารณาการก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้แก่ราษฎรในพื้นที่ได้มีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตรทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง

สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน แผนดำเนินการก่อสร้างระยะเวลา 3 ปี (2566-2568) หากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเก็บกักน้ำได้ประมาณ 2.67 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อการอุปโภคบริโภค ส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกได้กว่า 1,500 ไร่ ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลโป่งทุ่ง และหมู่ที่ 3 ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน รวมทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด เสริมสร้างรายได้แก่ราษฎร เป็นการส่งเสริมให้ราษฎรมีอาชีพทางการเกษตรเพิ่มมากข้ึน เพื่อลดปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

ด้าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า “ผมได้เร่งรัดให้กรมชลประทานดำเนินการจัดหาที่ดิน เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาฯ หวังช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในพื้นที่แบบระยะยาว ช่วยให้พี่น้องชาวตำบลแม่ลานและตำบลโป่งทุ่ง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้มีแหล่งน้ำต้นทุนในการเพาะปลูก รวมทั้งได้ใช้ประโยชน์ในทุกกิจกรรมการใช้น้ำ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งกำชับให้กรมชลประทานดำเนินการจ่ายค่าชดเชยที่ดินอย่างเป็นธรรมที่สุดภายในปี 2565 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำฯ ได้ในปี 2566 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ในเร็ววัน พร้อมสนับสนุนโครงการต่อเนื่อง เช่น ระบบส่งน้ำ เพื่อขยายพื้นที่ชลประทานให้มากขึ้นต่อไปในอนาคต และสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯร่วมบูรณาการส่งเสริมอาชีพและการปลูกพืชให้ผลตอบแทนสูงให้กับประชาชน”

No Comments

    Leave a Reply