News

ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์ฯ คนใหม่ เล็งตั้ง “วิทยาลัยสหกรณ์” ศูนย์กลางพัฒนาคน งานวิจัยและนวัตกรรมของขบวนการสหกรณ์

11/01/2019

ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์ฯ คนใหม่ เปิดนโยบาย 6 ด้าน เดินหน้าพัฒนาสหกรณ์เข้มแข็ง เป็นกลไกพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ปฏิรูประบบบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล พร้อมกระจายอำนาจบริหารสู่ระดับจังหวัดเล็งตั้ง “วิทยาลัยสหกรณ์” ศูนย์กลางพัฒนาคน งานวิจัยและนวัตกรรมของขบวนการสหกรณ์ 


 นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ชุดที่ 25 ซึ่งมีตนเป็นประธาน พร้อมด้วยคณะสัตตะพลังรักษ์สหกรณ์ จะบูณาการทำงานเพื่อส่งเสริม พัฒนากิจการสหกรณ์ทุกประเภท ให้มีความเจริญก้าวหน้า สู่ความเข็มแข็ง โดยดำเนินการตามมาตรา 110 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ส่งเสริม เผยแพร่ แนะนำ ช่วยเหลือ ประสานงาน ให้การศึกษา ฝึกอบรม และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหกรณ์ทั้งภายใน และต่างประเทศ ซึ่งเน้นครอบคลุมครบทุกมิติ โดยมุ่งหวังให้สหกรณ์มีความเข้มแข็ง พร้อมเป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
ทั้งนี้ ได้วางกรอบนโยบายการพัฒนาสันนิบาตสหกรณ์ฯ และขบวนการสหกรณ์ของไทย จำนวน 6 ด้าน ได้แก่

1.การปฏิรูปสันนิบาตสหกรณ์ฯ เน้นการพัฒนาระบบบริหารจัดการ ปฎิรูประบบบริหารจัดการงบประมาณของสันนิบาตสหกรณ์ฯ ให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้ระบบธรรมาภิบาล พร้อมจัดตั้งกองทุนกลาง และพัฒนาสู่การเป็นธนาคาร (Coop Bank) ปฎิรูปและยกระดับระบบการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสหกรณ์ โดยมีการจัดตั้ง “วิทยาลัยสหกรณ์” เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาคน พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมของขบวนการสหกรณ์ นอกจากนี้ ร่วมมือกับสถาบันการศึกษา จัดหลักสูตรอบรม “ฟรี” ที่เอื้อต่อการ “พัฒนานักสหกรณ์มืออาชีพ” ปฏิรูปและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (DATA CENTER) ด้วยระบบฐานข้อมูลที่ทันสมัย ในยุคสหกรณ์ 4.0 รวมทั้งการปฎิรูประบบการเลือกตั้งของสันนิบาตสหกรณ์ฯ เพื่อให้ได้ ” คนเก่ง คนดี และมีคุณธรรม” เข้าสู่ระบบ “อย่างมืออาชีพ”

2.การกระจายอำนาจบริหาร โดยการจัดตั้งสันนิบาตสหกรณ์จังหวัด หรือเครือข่ายสหกรณ์ระดับจังหวัด ตามบริบทของพื้นที่กระจายอำนาจ ซึ่งเครือข่ายสหกรณ์ จะมีอำนาจในการบริหารจัดการแทนสันนิบาตสหกรณ์ฯ กระจายการจัดการฝึกอบรมตามภูมิภาค เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และสร้างความใกล้ชิดระหว่างพี่น้องสหกรณ์ด้วยกัน

3.การจัดสรรงบประมาณที่เป็นธรรม โดยการจัดสรรงบประมาณ ร้อยละ 15-30 ให้แก่เครือข่ายสหกรณ์ฯ อย่างเท่าเทียมเป็นธรรม เพื่อใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ทำบัญชีรายจ่ายตามความเป็นจริง และสะสมเงินที่เหลือเป็นกองทุนต่างๆ เพื่อพัฒนาสันนิบาตสหกรณ์ฯ และขบวนการสหกรณ์สู่ความเข้มแข็ง และมั่นคง

4.การแก้ไขกฎหมายสหกรณ์ โดยการพัฒนาระบบกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบปฎิบัติ เป็นผู้นำขบวนการสหกรณ์ในการแก้ไขกฎหมาย ปรับปรุง เพิ่มเติมข้อบังคับฯ ประกาศนายทะเบียน ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมและเอื้อต่อการพัฒนาสหกรณ์ พร้อมจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่สหกรณ์ทุกประเภท

5.การเอื้ออาทรกลุ่มรากหญ้า เน้นการพัฒนาสู่สากลด้วยระบบการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการของสหกรณ์ สร้างต้นแบบเครือข่ายสหกรณ์ พัฒนาระบบการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการของสหกรณ์ ให้สามารถเชื่อมโยงทั้งด้านการเงิน ทุน การผลิต การแปรรูป การตลาด และการกระจายสินค้า สร้างตราสินค้า Brand Co-op ที่จะส่งเสริมการสร้างโอกาสทางการค้าระหว่างสหกรณ์ โดยใช้ Brand ตามที่องค์การสัมพันธภาพสหกรณ์สากล หรือ องค์การ ICA ได้ประกาศรณรงค์ให้สมาชิกองค์กรสหกรณ์ทั่วโลกใช้เครื่องหมายการค้า Coop ซึ่งขณะนี้ทางสันนิบาตสหกรณ์ฯ ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Coop กับกรมทรัพย์สินทางปัญหา และกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาสันนิบาตสหกรณ์ฯ ได้นำเครื่องหมายการค้า Coop ใช้ในบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มของสหกรณ์การเกษตรดอนตูม จำกัด และอยู่ในช่วงประชาสัมพันธ์ให้สหกรณ์ทั่วประเทศใช้ตราสัญลักษณ์ดังกล่าว กระจายสู่ตลาดอย่างครบวงจร ให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ

6.การพัฒนาเครือข่ายสัตตะสหกรณ์ สร้างความเข้มแข็งของขบวนการสหกรณ์ ทั้ง 7 ประเภท ขยายเครือข่ายสหกรณ์ระดับชาติในรูปแบบ “สภาสหกรณ์แห่งชาติ” ผลักดันการจัดตั้งชุมนุมสหกรณ์ เช่น ชุมนุมสหกรณ์บริการแห่งประเทศไทย จำกัด ชุมนุมสหกรณ์การยางฯ จำกัด ชุมนุมสหกรณ์ผู้ใช้น้ำฯ จำกัด หรือ การจัดตั้งเป็นประเภท สหกรณ์เอนกประสงค์ สร้างเครือข่ายสหกรณ์ระดับจังหวัดให้มั่นคงในรูปแบบ “ชุมนุมสหกรณ์จังหวัด” ภายใต้หลักการและแนวคิด “สหกรณ์ก้าวไกล ด้วยน้ำพระทัยในหลวง” ส่งเสริมความร่วมมือกับชุมนุมสหกรณ์ทุกประเภท ให้มีความเชื่อมโยงทั้งในและต่างประเทศ

No Comments

    Leave a Reply