10 ม.ค.62 นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ( มกอช.) พร้อมด้วยดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย (Thai Tuna Industry Association-TTIA) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือเรื่องการต่ออายุหนังสือรับรองสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง และการขึ้นทะเบียนสถานประกอบการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยที่ส่งออกไปจีน ณ ห้องประชุมพระพิรุณ 111 สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
นางสาวจูอะดี กล่าวว่า มกอช. ได้แจ้งให้ทางสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ทราบถึงผลการหารือกับฝ่ายจีนในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ไทย-จีน ครั้งที่ 6 (6th Thailand-China JTC-SPS) ซึ่งเป็นการประชุมภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ไทย-จีน (Thailand-China MOU on SPS) ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาการนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรชนิดอื่นๆ เช่น การส่งออก รังนก เนื้อสัตว์ปีก อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้จากไทยไปจีน ซึ่งการหารือดังกล่าวประสบความสำเร็จและเป็นประโยชน์กับฝ่ายไทยในหลายประเด็น รวมถึง ผู้ผลิตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตั้งแต่ปี 2555 และการขึ้นทะเบียนนั้นได้หมดอายุ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ยังสามารถส่งออกสินค้าไปจีนได้ตามปกติ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วที่เว็บไซด์ของกระทรวงศุลกากรแห่งชาติจีน (General Administration of Custom of China :GACC) สำหรับโรงงานที่ขอขยายขอบเขตและขอขึ้นทะเบียนใหม่ มกอช. ร่วมกับกรมปศุสัตว์ ได้ทำหนังสือเชิญฝ่ายจีน มาตรวจรับรองโรงงาน ซึ่งทางฝ่ายจีนได้ตอบรับที่จะมาตรวจรับรองในช่วงต้นปี 2562 นี้
เลขาธิการ มกอช. กล่าวว่า นอกจากนี้ ทางสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ยังได้มีการร้องขอในส่วนการขอเพิ่ม Scope การรับรองในส่วนที่เป็น Ingredients ใหม่เพิ่มเติม เช่น ไก่ เนื้อ ผัก และชนิดภาชนะบรรจุ เช่น ถุงเพาซ์ (Pouch) และถ้วยพลาสติก (Plastic Cup) เป็นต้น ซึ่งยังรอการอนุมัติจากหน่วยงานกระทรวงศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) ด้วย
“ที่ผ่านมา ปี 2561 ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม อุตสาหกรรมทูน่าไทยมีการผลิตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงส่งไปยังทั่วโลกจำนวนมาก มีปริมาณภาพรวมถึง 445,064 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 35,389 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดจีนเป็นตลาดสำคัญ มีปริมาณส่งออกไปจีนถึง 10,206 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,273 ล้านบาท ทั้งนี้ หากเพิ่มการขึ้นทะเบียนสถานประกอบการดังกล่าว คาดว่าปริมาณการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทย ไปจีน จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นางสาวจูอะดี กล่าว
No Comments