เมื่อวันที่ 18 ก.ค.62 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เวลา 08.49 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ,นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และนายประภัตร โพธสุธน ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น องค์พระพิรุณทรงนาค องค์ใหม่ที่ประดิษฐานหน้ากระทรวง และองค์เก่า ประดิษฐานไว้ในห้องพิพิธภัณฑ์ ศาลพระภูมิ ศาลเท้าเวชสุวรรณ ศาลตายาย พร้อมประชุมมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า นำพระสมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นพระเก่าแก่ที่บูชาจากสำนักงานตนเองและเป็นมงคลดี จึงนำมาบูชาที่ห้องทำงานกระทรวง ตนนำเข้ามาไว้ในห้องตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งวันนี้เข้ากระทรวงถือฤกษ์สะดวก ทั้งนี้ นโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการอันดับแรกคือการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมมาตรการรองรับให้ปริมาณน้ำมีเพียงพอ ยังไม่ถึงวิกฤตที่จะต้องประกาศภัยแล้ง รวมถึงการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินการตามนโยบายประกันรายได้ที่หาเสียงไว้กับประชาชน และสานต่อโครงการของนายกฤษฏา บุญราช อดีตรมว.เกษตรฯ
“ขณะนี้เกษตรกรทั่วประเทศเดือดร้อนจากภาวะฝนทิ้งช่วง ต้องเร่งวางระบบบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้เพียงพอ พร้อมกับแก้โรคระบดพืช สัตว์ ปัญหาประมง ราคาข้าว ราคายาง เป็นเรื่องด่วนทั้งหมด ซึ่งเวลานี้ปัญหาน้ำสำคัญที่สุด แม้ว่าอยู่ช่วงต้นฝน แต่จากคาดการณ์ปีนี้น้ำน้อย ต้องแจ้งให้ชาวบ้านรู้ ถ้าไม่สามารถปลูกข้าวได้ หามาตรการเยียวยา ให้ปลูกพืชน้ำน้อย และมาตรการช่วยเหลืออื่นๆเมื่อเกิดความเสียหาย สำหรับการแบ่งงานระหว่าง3รมช.เกษตรฯจะมาหารือกันหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา และได้เตรียมรับมืออภิปรายมีข้อมูลพร้อมชี้แจง ในส่วนประเด็นความขัดแย้งเรื่องห้องทำงาน ไม่เป็นจริงทุกอย่างลงตัวแล้ว ทุกคนตั้งใจมาทำงานเราเข้ามาแก้ปัญหาให้เกษตรกรสำคัญที่สุด ขอให้ข้าราชการมีความคิดเหมือนกัน ช่วยกันทุ่มเท ให้ทำงานให้มากที่สุด “นายเฉลิมชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการประกันรายได้เกษตรกร ที่พรรคปชป.หาเสียงรับปากไว้กับชาวบ้าน ว่าราคาข้าว ไม่ต่ำกว่า1หมื่น ราคายาง 65 บาท ราคาปาล์ม 4-5บาท จะผิดคำพูดกับเกษตรกรหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่ากำลังอยู่กระบวนการทำงานต้องมีขั้นตอน จะไม่ผิดคำพูดเกษตรกร ให้รอดูเพราะมีระยะเวลาการดำเนินงาน พูดคุยทุกหน่วยงาน ตนรับประกันว่าจะทำงานเต็มที่ รอไม่นาน ซึ่งหารือข้อกฏหมายกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯว่าช่วงนี้ยังสั่งการอะไรไม่ได้จนกว่าแถลงนโยบายรัฐบาล
ด้านนายประภัตร กล่าวว่า เร่งช่วยเหลือเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา ขณะนี้ต้นทุนข้าวอยู่ที่ตันละ 5,000 บาท สถานการณ์ภัยแล้งทำให้ต้นทุนสูง แต่ผลผลิตต่อไร่ต่ำ โดยเห็นว่าควรจะมีมาตรการชดเชยรายได้ ราคาข้าวให้แก่เกษตรกร แต่จะเป็นเท่าไหร่จะขอหารือกับทุกฝ่ายก่อน ยืนยันว่าจะแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้ผลจริง
“จะลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิต์ พร้อมประชุมวางแนวทางรับมือ วันที่19ก.ค.และจะเชิญตัวแทนเกษตรกรจากทั้ง 15 จังหวัดมาหารือ ถึงผลกระทบจากภัยแล้ง ว่ามีความเดือดร้อนแค่ไหน ส่วนมาตรการจะต้องหารืออีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรทั้งนี้ตั้งแต่ค่ำวันนี้จะลงพื้นที่ร่วมกับ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการระทรวงเกษตรฯ เพื่อ ติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดตากและจังหวัดอุตรดิตถ์ ลุ่มเจ้าพระยา เพื่อให้ชาวนามีน้ำพอจนเก็บเกี่ยวได้ผลผลิต”นายประภัตร กล่าวและว่าได้นำพระปางประทานพร มาไว้ที่ห้องทำงาน มาให้พรที่ผมขอไว้จะทำงานให้ประชาชน เกษตรกร ประสบความสำเร็จมีความสุข”นายประภัตร กล่าวพร้อมกับพาผู้สื่อเข้าไปดูห้องทำงานรมช.เกษตร ห้องที่121 และไหว้พระปางประทานพร และกล่าวว่าตั้งใจมาทำงานจะไม่ได้มาแย่งห้องทำงาน จะลงพื้นที่ดูน้ำทันทีเพราะเป็นเร่งด่วน
ขณะที่ นางสาวมนัญญา กล่าวว่า จะอาศัยประสบการณ์การทำงานในระดับท้องถิ่นที่ทำงานจริงๆมาตลอด 10 ปี มั่นใจว่ารู้ปัญหาของเกษตรกร โดยจะนำปัญหาขึ้นมาหารือ เสนอต่อ รมว.เกษตรฯ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา เน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคเกษตรมากขึ้น โดยขบวนการบริหารจัดการเป็นสิ่งสำคัญ ต้องแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด คิดว่าจะนำรูปแบบการบริหารจัดงานในท้องที่ที่ประสบความสำเร็จมาบริหารในระดับประเทศต่อ ส่วนที่มีคนมองว่า 4 คน มาจาก 4 พรรค จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าจะช่วยทำให้การทำงานมีความหลากหลายมากขึ้น ทุกปัญหาทุกนโยบายจะต้องมีการหารือ ให้เกิดการแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างแท้จริง เพื่อภาพรวมของประเทศ ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การทำงานครั้งนี้จะต้องล้างภาพรัฐมนตรีแบลคลิส เพราะตัวเองมาจากดินเข้าใจดีว่าทำไมเกษตรกรถึงยากจน มาจากปัญหาผลิตอะไรได้แต่ไม่มีที่ขาย จึงต้องหาตลาดให้โดยตั้งใจทำทันที ส่วนการซักฟอกของฝ่ายค้านเตรียมรับมือไว้แล้วไม่กังวลใดๆ ซึ่งตนรู้ปัญหาพื้นที่ทำงานให้ประชาชนมาตลอดมีแนวทางแก้ไขไว้แล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวพร้อมพาสื่อดูห้องทำงานปีกขวา ของกระทรวงซึ่งเป็นห้องรมช.เกษตร เลขที่126 อยู่ติดกับห้องรมช.มนัญญา เลขที่125 ว่าระหว่างนี้กำลังทำห้องของตนใหม่ ซึ่งอยู่ตึกหลังของกระทรวง ใช้เวลาทำห้อง 1สัปดาห์ เนื่องจากห้องนี้มีพื้นที่ไม่เพียงพอ มีขนาดเล็กเกินไปตนจะให้ รมช.มนัญญา ได้ใช้ทั้งสองห้อง คือยุบรวมห้อง 125-126 นำพนังกั้นห้องออก จะได้กว้างขึ้น รวมกันเป็นห้องเดียว เพราะห้องรมช.มนัญญา ก็เล็กไปและทีมงานจากจ.อุทัยธานี มีมากหากใช้แค่ห้องเดียวอย่างเดิมไม่พอ ส่วนตนเองจะดูห้องใหม่ที่อยู่ด้านหลัง โดยให้พระอาจารย์มาดูว่าตรงส่วนไหนจะเหมาะสมเพราะตนก็ศิษย์มีอาจารย์ พร้อมกับหากฤษ์ดีเข้าห้องทำงานอีกครั้ง ในวันนี้ยังไม่ใช่กฤษ์ของตน
No Comments