News

ชป. เดินหน้าไล่ความเค็มลุ่มเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง รับมือน้ำทะเลหนุน 13 – 15 ม.ค. นี้

13/01/2020


กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำไล่ความเค็ม รับมือน้ำทะเลหนุนสูง 13- 15 ม.ค.นี้ วางมาตรการระบายน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองช่วยเจือจางความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ป้องกันน้ำเค็มรุกโรงสูบน้ำสำแล
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำโดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ปัจจุบัน(13 ม.ค. 63)

มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,875 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 44 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 4,179 ล้าน ลบ.ม. เน้นส่งน้ำเฉพาะการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น
สำหรับการติดตามสถานการณ์ค่าความเค็มลุ่มน้ำเจ้าพระยาของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) พบว่า ในช่วงวันที่ 13 – 15 ม.ค. 63 จะเกิดน้ำทะเลหนุนจนทำให้ค่าความเค็มรุกตัวในแม่น้ำเจ้าพระยา และส่งผลให้ปริมาณค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน ได้วางมาตรการในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาความเค็มตามแผนที่วางไว้มาอย่างต่อเนื่อง โดยแม่น้ำเจ้าพระยาให้ระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 90 – 100 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำป่าสักระบายน้ำที่ท้ายเขื่อนพระรามหก 5 – 10 ลบ.ม./วินาที พร้อมกับผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองผ่านแม่น้ำท่าจีนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองพระยาบันลือ เพื่อส่งน้ำมาช่วยผลักดันค่าความเค็มในม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำบริเวณคลองพระยาบันลือ เพื่อเร่งการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุด อีกทั้งยังได้มีการระบายน้ำผ่านกาลักน้ำที่คลองปลางบาง อีกประมาณ 6 ลบ.ม./วินาที และยังใช้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์- อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สมุทรปราการ ในการบริหารจัดการน้ำในช่วงที่น้ำทะเลลง เพื่อดึงค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ต่ำลง พร้อมกับตรวจวัดค่าความเค็มและให้การประปานครหลวงสามารถสูบน้ำได้อย่างเหมาะสม

สถานการณ์ค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยา วันนี้(13 ม.ค. 62) แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีประปาสำแล เวลา 07.00 น. วัดได้ 0.18 กรัมต่อลิตร (ค่าความเค็มสูงสุด 0.74 กรัมต่อลิตร ณ วันที่ 12 ม.ค. 63 เวลา 21.00น. เกณฑ์เฝ้าระวัง 0.25 กรัมต่อลิตร มาตรฐานเพื่อการผลิตน้ำประปาไม่เกิน 0.50 กรัมต่อลิตร) แม่น้ำท่าจีน ที่สถานีปากคลองจินดา เวลา 07.00 น. วัดได้ 0.26 กรัมต่อลิตร (ค่าความเค็มสูงสุด 0.31 กรัมต่อลิตร ณ วันที่ 12 ม.ค. 63 เวลา 21.30น. เกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้ 0.75 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร)ส่วนแม่น้ำปราจีน-บางปะกง ที่สถานีปราจีนบุรี เวลา 07.00 น. วัดได้ 0.08 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร) และ แม่น้ำแม่กลอง ที่สถานีปากคลองดำเนินสะดวก เวลา 07.00 น. วัดได้ 0.26 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้ 0.75 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร)
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา ปีนี้มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย การสนับสนุนน้ำด้านต่างๆ จึงเป็นไปอย่างจำกัด รวมทั้งการระบายน้ำเพื่อผลักดันค่าความเค็มที่มีน้อยกว่าปีก่อนๆ แต่อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ได้วางมาตรการต่างๆ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวเป็นระยะ เพื่อผลักดันค่าความเค็ม ให้กระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด จึงขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและจริงจังด้วย

No Comments

    Leave a Reply