เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.62 นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตร และกงสุล (ฝ่ายการเกษตร) ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ได้เดินทางเยือนอำเภอตงซิง เมืองฝางเฉิงก่าง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่อยู่ติดกับด่านหม่งก๋าย ของเวียดนาม เพื่อหารือแนวทางในการอนุญาตให้ผลไม้ไทยสามารถขนส่งทางบกจากประเทศไทยเข้าที่ด่านตงซิง เป็นการเพิ่มโอกาสและช่องทางการนำเข้าและการจำหน่ายผลไม้ไทยในจีน โดยเฉพาะสินค้าทุเรียน เนื่องจากปัจจุบันมีด่านทางบกที่นำเข้าได้เพียง 2 ด่าน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะรองรับในช่วงฤดูกาลที่ผลไม้ไทยออกสู่ตลาดมาก ทำให้เกิดปัญหาสินค้าติดอยู่ที่ด่านชายแดนจีนเป็นเวลานานจนมีผลกระทบต่อคุณภาพ
“จากปัญหาสินค้าผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนไทยที่ส่งไปจีนเสียหาย เนื่องจากการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านโหย่วอี้กว่าน สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เล็งเห็นว่าการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง คือการเพิ่มช่องทางการนำเข้าผลไม้ผ่านเส้นทางทางบก เพื่อเป็นการกระจายสินค้าให้สามารถเข้าได้หลายช่องทาง ช่วยลดภาระการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในแต่ละด่าน ตลอดจนลดระยะเวลาในการตรวจปล่อยสินค้าของแต่ละด่านลง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผลไม้ไทย”เลขาธิการ มกอช. กล่าว ปัจจุบันด่านตงซิง ได้รับการพัฒนาและยกระดับให้สามารถนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศได้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อมรองรับการตรวจสอบผลไม้ที่จะนำเข้าจากต่างประเทศ โดยรัฐบาลได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ถึง 2,000 คันต่อวัน รวมทั้งนำระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ เพื่อให้การตรวจปล่อยสินค้าเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยคาดว่า ระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ จะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ จีนกำหนดว่า ประเทศที่ไม่มีพรมแดนติดกับจีน หากประสงค์จะขนส่งผลไม้ผ่านเส้นทางทางบกจะต้องจัดทำความตกลงในรูปแบบพิธีสาร ปัจจุบันสามารถนำเข้าได้เพียงสองด่านทางตอนใต้ของจีน ได้แก่ ด่านโม่หาน มณฑลยูนนาน และด่านโหย่วอี้กว่าน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเท่านั้น โดยการลงนามพิธีสาร ตั้งแต่ปี 2552 เป็นจุดเริ่มต้นให้ผลไม้จากประเทศไทยจำนวน 22 รายการที่จีนอนุญาตให้นำเข้า สามารถขนส่งโดยเส้นทางขนส่งทางบกเข้าสู่จีน ในระยะเวลาที่สั้นกว่าทางเรือ ทำให้ผลไม้ไทยมีคุณภาพและความสดยาวนานสามารถกระจายไปยังตลาดตามมณฑลต่างๆ ของจีนได้อย่างรวดเร็ว โดยในปี 2561 มีปริมาณการส่งออกผลไม้จากไทยไปจีนโดยเส้นทางขนส่งทางบกราว 664,000 ตัน โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่า 321,000 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีปริมาณการส่งออกราว 343,000 ตัน คิดเป็นปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 90 โดยในปี 2561 มีมูลค่าส่งออก กว่า 25,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทุกปี ซึ่งการเปิดด่านตงซิงดังกล่าว จะเป็นมาตรการในการรองรับการเติบโตของตลาดสินค้าผลไม้ไทยในจีนในอนาคตต่อไป
No Comments