สภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมคัดเลือกเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ เข้าร่วมปลูกกัญชา ส่ง ภาครัฐ ในการสกัดกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ หลังมีสัญญานที่ดีจากภาครัฐ และ ชุดกรรมการวิสามัญ พิจารณา กฎหมายกัญชา ให้เกษตรกรไทยร่วมปลูกกัญชา โดยหวังให้พืชสมุนไพรกัญชา เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ของภาคเกษตรกรและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในอนาคต
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานเปิด โครงการสัมมนา การพัฒนาสายพันธุ์กัญชาพืชสมุนไพรไทยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และภาคเกษตรกรรม เพื่อ ให้ประชาชน ได้ทราบถึงความหลากหลายของสายพันธ์ กัญชา และสรรพคุณทางยาของแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งการสัมนา มีทั้ง สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ หน่วยงานราชการ เครือข่ายภาคประชาสังคมภาคเอกชน และเกษตรกรในการร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ โรงแรมไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต หลักสี่ กรุงเทพฯ
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งข่าว ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขกฎหมายกัญชา และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา กัญชาไทยถูกส่งออกในปหลายประเทศ ตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูล สงคราม แต่หลังจากนั้นถูกควบคุมด้วยกฎหมายยาเสพติด ทำให้การส่งออกกัญชาในสมัยอดีตต้องหยุดชะงักลง จึงทำให้เกิดกังวลว่า สายพันธุ์กัญชาไทย อาจสูญหาย แต่อีกด้าน กลับพบว่า มีนักวิชาการไทยจำนวนหนึ่ง ได้พยายามศึกษาวิจัย สายพันธุ์กัญชาไทยและต่างชาติมาโดยตลอด
ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะที่การประชุมกรรมการวิสามัญ พิจารณาพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พศ ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาที่มี นาย สมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธาน กรรมาธิการวิสามัญ ซึ่ง ทางสภาเกษตรกรแห่งชาติ เห็นด้วยที่เปิดให้กัญชา ศึกษา วิจัย และใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้เท่านั้น โดยสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เสนอในที่ประชุมถึงการให้เกษตรกรไทยรายย่อย ร่วมปลูกกัญชากับหน่วยงานรัฐ โดยเสนอให้องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้สกัดแต่เจ้าเดียว และให้เกษตรกรปลูกส่ง ซึ่งอาจต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์การปลูก ปริมาณต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา1ชุด เพื่อพิจารณาในข้อกำหนดการปลูกกัญชาในภาคเกษตรกร ซึ่งสภาเกษตรกรแห่งชาติพร้อม ในการร่วมคัดกรองเกษตรกรที่จะปลูกกัญชา โดยต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน มีประวัติที่ดี มีวินัย เบื้องต้นมีความเห็นตรงกับในที่ประชุม ที่จะให้จัดตั้งเป็น กลุ่มสหกรณ์ วิสากกิจชุมชน
“อย่างไรก็ตาม พืชสมุนไพรกัญชาอาจเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ของภาคเกษตรกรและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในอนาคต หลังจากที่ถูกควบคุมมานาน”นายประพัฒน์ กล่าว นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทางสภาเกษตรกรแห่งชาติยังคงมีความกังวล ในเรื่องของการผูกขาด จากบริษัทยักษ์ใหญ่ ในอนาคต ทั้งไทยและต่างชาติ ที่อาจจะเข้ามาร่วมมือกับภาครัฐในการสกัด และปลูกกัญชา ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาอย่างถี่ถ้วน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของคนในชาติ และเกษตรกรรายย่อย และให้มีการทบทวนเรื่องค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนปลูกกัญชา หลังมีรายงานว่า มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ได้มีการเสนอในประชุมกรรมการวิสามัญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม ว่า หลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ ยาเสพติด พศ… ฉบับใหม่ โดยในช่วง10ปีแรก ไม่ให้มีการยื่นขอการขึ้นทะเบียนจดสิทธิบัตรกัญชาจากต่างชาติ เพื่อให้โอกาสคนในประเทศไทยก่อน
No Comments