เอ็ม-150 รับรางวัล “เวิลด์ แบรนด์ดิ้ง อวอร์ด 2018” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ประกาศความเป็น “แบรนด์ออฟเดอะเยียร์” อย่างภาคภูมิ

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวสุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Marketing Officer และนายศรัณย์ ลดาวรรษ์ Head of M-150 Brand Building รับมอบรางวัล “แบรนด์ออฟเดอะเยียร์” ในงานประกาศรางวัล “เวิลด์ แบรนด์ดิ้ง อวอร์ด 2018” ที่มอบให้กับ เอ็ม-150 ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวในหมวดเครื่องดื่มให้พลังงานจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัล ณ พระราชวังเค็นซิงตัน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เอ็ม-150 เครื่องดื่มให้พลังงานของไทย คว้ารางวัล “แบรนด์ออฟเดอะเยียร์” อีกครั้ง ในฐานะแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับของผู้บริโภคในระดับโลก ในงานประกาศรางวัล “เวิลด์ แบรนด์ดิ้ง อวอร์ด 2018” ที่ประเทศอังกฤษ ตอกย้ำความสำเร็จของการสื่อสารแบรนด์ผ่านกลยุทธ์ไอดอลมาร์เก็ตติ้ง สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง และมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง

นางสาวสุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Marketing Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจอีกครั้งของโอสถสภาที่แบรนด์ เอ็ม-150 ได้รับรางวัล “เวิลด์ แบรนด์ดิ้ง อวอร์ด 2018” ประเภท “แบรนด์ออฟเดอะเยียร์” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จัดโดยสถาบันเวิลด์ แบรนด์ดิ้ง ฟอรัม ณ พระราชวังเค็นซิงตัน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเอ็ม-150 เป็นแบรนด์เดียวในหมวดเครื่องดื่มให้พลังงานจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ในฐานะแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่น โดยพิจารณาจากคะแนนโหวตออนไลน์จากประชาชนทั่วไป (Public online voting) ผลประเมินคุณค่าของแบรนด์ (Brand valuation) และการวิจัยตลาดผู้บริโภค (Consumer market research)

“การได้รับรางวัล “แบรนด์ออฟเดอะเยียร์” 2 ปีซ้อนในครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ได้ว่า การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดของ เอ็ม-150 โดยผสานกลยุทธ์ ไอดอลมาร์เก็ตติ้ง สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง และมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง พร้อมการสื่อสารด้านการตลาดอย่างครบวงจรทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ส่งผลให้แบรนด์เอ็ม-150 เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและเป็นแบรนด์ทรงพลังที่ผู้บริโภคจดจำและมีความผูกพันกับแบรนด์ ซึ่งเอ็ม-150 จะสานต่อกลยุทธ์เพื่อรุกตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดเพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้แก่ผู้บริโภคอย่างไม่หยุดยั้งต่อไป” นางสาวสุทิพากล่าว

ทั้งนี้ เอ็ม-150 ใช้กลยุทธ์ไอดอลมาร์เก็ตติ้ง ผ่านพรีเซ็นเตอร์หลัก คือ ตูน บอดี้สแลม ศิลปินร็อกชั้นนำของไทย ที่วันนี้เป็นมากกว่าศิลปินนักร้องแต่ก้าวไปสู่การเป็นฮีโร่ที่เอาชนะตัวเองและทำประโยชน์ให้กับประเทศ และศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ ฟลายเวต สภามวยโลก นักชกขวัญใจคนไทยที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยด้วยชัยชนะที่ช็อกโลกเมื่อปี 2560 และการป้องกันแชมป์โลกได้ทั้ง 3 ครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาในการชนะนักชกจากเม็กซิโก ทำให้ตูนและศรีสะเกษ นับเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดที่จะถ่ายทอดเรื่องราวแบรนด์ไอเดีย “เอ็ม-150 พลังฮึดสู้เพื่อคนไทย” ส่งต่อให้แก่ผู้บริโภค

ด้านสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งนับเป็นกลยุทธ์ที่เอ็ม-150 ให้ความสำคัญโดยการใช้กีฬาเป็นตัวเชื่อมต่อแบรนด์ไปยังผู้บริโภคในวงกว้าง โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลและมวยซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทยทั่วประเทศ ทั้งการเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันฟุตบอลเอ็ม–150 แชมเปี้ยนชิพ หรือไทยลีก 2 และการแข่งขันฟุตบอลเอ็ม-150 คัพ เพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลไทยก้าวสู่ระดับโลก เช่นเดียวกับการสนับสนุนค่ายมวยอย่างนครหลวงโปรโมชั่นที่มีนักมวยชั้นนำแนวหน้าของไทยอยู่มากมาย ซึ่งไม่เพียงศรีสะเกษ นครหลวงโปรชั่น ที่กลายเป็นแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยแล้ว เอ็ม-150 ได้สนับสนุนนักมวยในค่ายที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้รับการจัดอันดับสูงขึ้นอีกหลายคนซึ่งอาจจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ก้าวสู่การเป็นแชมป์โลกในอนาคตก็เป็นได้ จึงนับเป็นความภาคภูมิใจของเอ็ม-150 ที่มีส่วนช่วยผลักดันวงการกีฬาของประเทศไทยให้ผงาดไกลในระดับโลก โดยยิ่งสำเร็จมากเพียงใด เอ็ม-150 ก็สามารถเข้าถึงและสร้างความรักความผูกพันต่อแบรนด์กับคนไทยได้มากขึ้นเท่านั้น

พร้อมกันนี้ เอ็ม-150 ได้สานต่อกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งอย่างต่อเนื่อง โดยเดินสายจัดคอนเสิร์ต M-150 ลูกทุ่งซุปเปอร์โชว์ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศตลอดปี รวมถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ที่สนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง  แบรนด์อย่างใกล้ชิดและรู้สึกมีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างแท้จริง

ด้วยการผสานกลยุทธ์ที่หลากหลายและการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แบรนด์เอ็ม-150 มีความโดดเด่นและแตกต่างจนครองตำแหน่งเบอร์ 1 ในใจของผู้บริโภค ซึ่งการันตีด้วยรางวัล “แบรนด์ออฟเดอะเยียร์” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในครั้งนี้