News

ทยอยปรับลดเจ้าพระยา ด้าน 4 เขื่อนหลักน้ำมั่นคง หนุนเพาะปลูกพืชฤดูแล้งเต็มศักยภาพ

10/12/2025

 

วันนี้ (10 ธันวาคม 2568) ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวม 69,119 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 90% ของความจุอ่างฯ รวม เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวม 24,311 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 98% ของความจุอ่างฯ รวมกัน โดยหลังจากจบฤดูฝน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา กักเก็บน้ำได้เต็มอ่างฯ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพ มีการจัดสรรน้ำจากเขื่อนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านท้ายน้ำ ควบคู่ไปกับจัดการน้ำต้นทุนให้เพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำในเขตชลประทานตลอดช่วงฤดูแล้งนี้

ด้านสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เขื่อนเจ้าพระยา ได้ทยอยปรับลดการระบายน้ำจากอัตรา 1,050 ลบ.ม./วินาที เหลืออัตรา 920 ลบ.ม./วินาที ภายในเที่ยงคืนนี้ และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง คาดว่าจะลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เหลืออัตรา 700 ลบ.ม./วินาที ได้ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่คลองโผงเผง อ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะเดียวกัน กรมชลประทาน บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากทุ่งลุ่มต่ำต่างๆ และจะคงเหลือน้ำในทุ่งเพื่อสำรองไว้ใช้เตรียมเพาะปลูกข้าวนาปรังและพืชฤดูแล้ง ต่อไป

ทางด้านภาคใต้ระยะนี้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กรมชลประทานได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำ และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมเครื่องจักรกล เครื่องมือ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ตามนโยบายของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

💡ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำเพิ่มเติมได้ที่ https://www2.rid.go.th/th/main และ wmsc.rid.go.th