News

ชป.เฝ้าระวังสภาพอากาศ ติดตามบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมน้ำรับฤดูน้ำหลาก

28/03/2022

วันนี้(28 มี.ค. 65) ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ(กทม.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (28 มี.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 48,206 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้ประมาณ 24,268 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 17,906 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 80 ของแผนฯ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 11,240 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 4,544 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 5,008 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 88 ของแผนฯ ภาพรวมสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ดี การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนที่กำหนด


ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ปริมาณฝนในปี 65 นี้ จะคล้ายคลึงปี 52 ประกอบกับปรากฏการณ์ลานีญา ซึ่งอาจส่งผลให้มีปริมาณฝนตกมาก จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องเหมาะสม เน้นย้ำอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญให้ทำการประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุดารบริการจัดการน้ำให้สอดคล้องเหมาะสม เน้นย้ำอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญให้ทำการประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

No Comments

    Leave a Reply