News

รมว.กษ.ไฟเขียว ต่อยอดพัฒนาอ่างฯ คลองกะทะ

14/11/2021

วันนี้ (14 พ.ย.64) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดภูเก็ต รวมถึงความก้าวหน้าการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมี นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายปริญญา สัคคะนายก ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 15 นายธรรมนูญ บำรุงเพ็ชร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้อง บรรยายสรุป ณ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ตำบลฉลอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในฝั่งทะเลอันดามัน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมากถึง 14 ล้านคนต่อปี ทำให้มีความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคประมาณ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อปี โดยมีโรงผลิตน้ำประปาในพื้นที่กว่า 20 แห่ง ซึ่งใช้น้ำดิบในการผลิตจากแหล่งน้ำในพื้นที่ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางวาด มีปริมาณน้ำเก็บกัก 10.20 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 7.19 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 4.14 ล้าน ลบ.ม. แต่ปริมาณน้ำต้นทุนยังคงน้อยกว่าความต้องการใช้น้ำของประชากร จึงทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำอ่างฯ ทั้ง 3 แห่ง ตามมติที่ประชุมของคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดภูเก็ต โดยในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายนให้โรงผลิตน้ำประปาทั้งหมดใช้น้ำจากขุมเหมืองและแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลักในการผลิต ส่วนช่วงฤดูแล้ง ระหว่างเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคม ให้ใช้น้ำจากอ่างฯ ทั้ง 3 แห่งจากนั้น ดร.เฉลิมชัยฯ และคณะได้เดินทางไปยังบริเวณขุมน้ำวัดฉลอง ต.ฉลอง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชุมชนเทศบาลตำบลฉลองมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง และปัญหาการทิ้งน้ำเสียจากครัวเรือนลงสู่ลำน้ำ ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาของเทศบาลตำบลฉลอง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ กรมชลประทาน ได้วางแผนแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการดำเนินการวางท่อส่งน้ำ จำนวน 2 สาย พร้อมอาคารประกอบความยาวรวม 3,890 เมตร สามารถส่งน้ำให้กับโรงงานผลิตน้ำประปาตำบลฉลอง 10 หมู่บ้าน รวม 2,011 ครัวเรือน รวมถึงวางแผนเพิ่มความจุอ่างฯ คลองกะทะ ด้วยการติดตั้งบานระบายแบบพับได้บนสันอาคารระบายน้ำล้น ความสูง 1 เมตร ยาว 12 เมตร ทำให้สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.37 ล้าน ลบ.ม.

ในการนี้ ดร.เฉลิมชัยฯ ได้สร้างความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค-บริโภค ตามแผนของกรมชลประทาน และสนับสนุนให้มีการปรับภูมิทัศน์บริเวณอ่างฯ ทั้ง 3 แห่ง เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ รวมถึงต่อยอดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวภูเก็ตต่อไป

No Comments

    Leave a Reply