News

อธิบดีกรมชลประทาน กำชับ เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมระบบชลประทาน ให้พร้อมใช้งาน

08/12/2022

อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท กำชับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซ่อมแซมระบบชลประทานต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน เพื่อการบริหารจัดการน้ำและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2565/2566 ขณะที่สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี

ที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมการส่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบรมธาตุ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ พร้อมรับฟังความคิดเห็นในการบริหารจัดการน้ำจากหน่วยงานในพื้นที่


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ระบุถึง สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จนถึงวันที่8 ธันวาคม มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 14,098 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 6,000 ล้าน ลบ.ม. ภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี แต่หากเปรียบเทียบปริมาณน้ำระหว่างเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จะเห็นได้ว่าเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำน้อยและการใช้น้ำส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ซึ่งมีพื้นที่ชลประทานมากกว่า 1 ล้านไร่

ขณะที่เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำมากกว่า และการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงจนถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยาน้อยกว่า ทำให้การบริหารจัดการน้ำในปีนี้ กรมชลประทาน จะใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพลเป็นหลัก

สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่สำนักงานชลประทานที่ 12 มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมประมาณ 518 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ 98% ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 458 ล้าน ลบ.ม.

โดยกรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในแต่ละพื้นที่ ตามลำดับความสำคัญของกิจกรรมการใช้น้ำ ทั้งการ อุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร และอุตสาหกรรม ตามลำดับ และอีกส่วนหนึ่งจะสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2566

ด้านสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง ปัจจุบันหลายจังหวัดได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงบริเวณคลองระบายใหญ่สองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ยังมีน้ำล้นตลิ่ง กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 32 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 28 เครื่อง เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง

ส่วนการบริหารจัดการน้ำในทุ่งพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ ทุ่งป่าโมก คงเหลือน้ำค้างทุ่งไว้ให้เกษตรกรได้เตรียมแปลงเพาะปลูก

ขณะที่ ทุ่งผักไห่และทุ่งโพธิ์พระยา อยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำออกจากทุ่ง และจะคงเหลือน้ำค้างทุ่งไว้ให้เกษตรกรได้เตรียมแปลงเพาะปลูกเช่นกัน คาดว่าจะสามารถระบายน้ำออกเสร็จสิ้นในช่วงกลาง-ปลายเดือนธันวาคม 2565 นี้

ส่วนการซ่อมแซมคันคลองส่งน้ำ 1 ซ้าย ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบรมธาตุ นั้น ได้ทำการซ่อมแซมเสร็จครบทั้ง 13 จุด ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา สามารถส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกได้แล้ว / บริเวณพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม กรมชลประทาน ได้ระดมเครื่องจักร เครื่องมือเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟู ปรับปรุงระบบชลประทานที่ได้รับผลกระทบในช่วงน้ำหลากที่ผ่านมา ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ทั้งนี้ อธิบดีกรมชลประทาน ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ ดำเนินการตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้งปี 2565/2566 ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดช่วงฤดูแล้งนี้

 

No Comments

    Leave a Reply